ข่าวประชาสัมพันธ์

วิธีการทำกรวยพ่นยา (Spacer) DIY

วิธีใช้ตู้อบฆ่าเชื้อ UVC

วิธีทำตู้ฆ่าเชื้อ UVC DIY

 

เรื่องโดย :  กิดานัล กังแฮ Team Content www.thaihealth.or.th

ขอบคุณข้อมูลจาก :  หนังสือเครื่องดื่มน้ำตาลน้อยทางเลือกเพื่อสุขภาพ สถาบันค้นคว้า และพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหาร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ แผนงานรณรงค์เพื่อเด็กไทยไม่กินหวาน และศูนย์บริการข้อมูลข่าวสาร (Resource Center) สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)

เดี๋ยวนี้หันไปทางไหน ผู้คนก็จริงจังกับดูแลสุขภาพ โดยเฉพาะเรื่องของการลดน้ำหนัก ที่มาจากภาวะน้ำหนักเกิน อันเป็นบ่อเกิดของสารพัดโรคได้ เช่น โรคหัวใจ ,โรคหลอดเลือดสมอง ,โรคเบาหวาน และโรคความดันโลหิตสูง เป็นต้น

 

ล่าสุด สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ได้ร่วมกับ บริษัท วู้ดดี้ เวิลด์ จำกัด และ บริษัทซีพี –เมจิ จัดทำโครงการ ‘ลดพุง ลดโรค ชีวิตใหม่ใน 60 วัน (60DAY BEST OF ME)’ เพื่อให้ข้อมูลเกี่ยวกับการกิน และออกกำลังกายอย่างถูกวิธีเพื่อสุขภาพที่ดี ด้วยหลัก 3อ. ผ่านแอปพลิเคชัน ‘60DAY’

ทั้งนี้ 1 ในเรื่องที่สำคัญ และกำลังปัญหาสุขภาพของคนไทย คือ พฤติกรรมการบริโภคหวาน แม้ว่าความหวานจะถูกแปรเปลี่ยนเป็นพลังงานที่ใช้ในร่างกาย ซึ่งคนปกติทั่วไป ควรได้น้ำตาลไม่เกิน 6 ช้อนชา หรือ 24 กรัม ใน 1 วัน แต่ถ้าบริโภคมากเกินไปก็จะถูกเปลี่ยนเป็นไขมันสะสมในร่างกาย ดังนั้น การบริโภคน้ำตาลมากๆ ส่งผลให้มีน้ำหนักเกิน อ้วน และทำให้เกิดโรคหรือปัญหาทางสุขภาพตามมาได้

วันนี้เราจึงรวบรวมวิธีทำ 3 เครื่องดื่มหวานน้อย ที่อร่อยสดชื่นแล้วยังดีต่อสุขภาพอีกด้วย มาฝากค่ะ

1. น้ำมะตูม

มะตูมเป็นสมุนไพรที่ดีอย่างหนึ่ง ที่รู้จักกันแพร่หลาย สามารถหาซื้อลูกมะตูมอ่อนที่หั่นเป็นแว่นๆ ตากแห้งขายอยู่ตามร้านขายยาแผนโบราณ หรือตามตลาด โดยสรรพคุณทางยาของมะตูมนั้น สามารถขับลม บรรเทาอาการท้องผูก บรรเทาอาการอ่อนเพลีย และจุกเสียด

วิธีการทำน้ำมะตูม

1. ใช้มะตูมอ่อนที่ฝานเป็นแผ่นตากแดดให้แห้ง ล้างน้ำให้สะอาด ใช้สันมีดทุบให้พอแตก เป็นรอยร้าวทั้งลูก

2. ต้มน้ำ 300 มิลลิลิตร ใช้มะตูมแผ่นล้างน้ำ ปิ้งไฟพอหอมหรือมะตูมลูกที่ทุบให้แตกร้าวใส่ลงหม้อต้ม ประมาณ 10-15 นาที โดยใช้ไฟปานกลาง

3. ใส่น้ำตาลปริมาณน้ำตาล 15 กรัม ต้มต่อไปจนน้ำตาลละลายดี ปิดไฟตั้งทิ้งไว้ให้เย็น เทใส่ขวดน้ำพลาสติกที่ล้างสะอาดแช่เย็นเก็บไว้ดื่มได้

เวลาดื่มใช้ผสมในน้ำแข็ง โดยเฉพาะในช่วงหน้าร้อนที่มีอากาศร้อนจัด จะทำให้สดชื่น แก้ร้อนในกระหายน้ำได้ดี บางคนอาจชอบต้มกับน้ำเปล่าๆ โดยไม่ใส่น้ำตาล ก็เหมือนดื่มน้ำชาสมุนไพรนั้นเอง ซึ่งสามารถดื่มได้ทั้งขณะอุ่นๆ หรือผสมน้ำแข็งดื่มได้เช่นกัน

2. น้ำผลไม้รวม

ส่วนประกอบ ได้แก่ แครอท เสาวรส มะม่วง และสับปะรด  (สามารถดัดแปลงนำผลไม้ชนิดอื่นๆ ได้)

แครอท มีสรรพคุณมากมาย ช่วยบำรุงสายตา อีกทั้งยังมีส่วนช่วยในการทำงานของสมอง ขับปัสสาวะ และอุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุที่มีประโยชน์แก่ร่างกาย

เสาวรส อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ แร่ธาตุ วิตามิน และไฟเบอร์ ในขณะที่เสาวรส 100 กรัม ให้พลังงานเพียงแค่ 97 แคลอรีเท่านั้น มีไฟเบอร์สูง จึงสามารถช่วยขจัดคอเลสเตอรอลในร่างกายได้ อีกทั้งยังช่วยขับสารพิษในลำไส้ ป้องกันโรคมะเร็งลำไส้ไปได้ในตัว รวมทั้งช่วยควบคุมการทำงานของหัวใจและความดันโลหิตให้เป็นปกติได้ด้วย

มะม่วง มีสารอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายมากมาย เริ่มจากวิตามินซีที่จำเป็นต่อการสร้างคอลลาเจน ช่วยป้องกันหวัด และเพิ่มการดูดซึมธาตุเหล็ก ซึ่งในผลดิบส่วนใหญ่จะมีวิตามินซีสูงกว่าผลสุก เบตาแคโรทีนซึ่งเป็นสารตั้งต้นของวิตามินเอ จะพบมากในมะม่วงสุกช่วยบำรุงสายตา และป้องกันโรคตาบอดกลางคืน รวมทั้งวิตามินอีที่ไม่ค่อยพบในผลไม้ แต่มะม่วงก็เป็นหนึ่งในสิบอันดับผลไม้ที่มีวิตามินอีที่จะช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย

สับปะรด  มีวิตามินช่วยในการทำงานของเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน และยังช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันแข็งแรง เพื่อป้องกันไม่ให้ร่างกายติดเชื้อ ต่อสู้กับเชื้อโรคต่างๆ รวมถึงช่วยในการย่อยอาหาร  และควบคุมน้ำตาลในเส้นเลือด

วิธีการทำน้ำผลไม้รวม (ไม่มีน้ำตาล )

1. นำแครอท และสับปะรดมาปั่นละเอียด ส่วนมะม่วงให้แยกเนื้อ

2. ผสมผลไม้ ตามด้วยน้ำเสาวรส และน้ำเปล่า เคี่ยวด้วยความร้อนให้เข้ากัน เติมเกลือประมาณ 1 ช้อนชา ทั้งนี้ สามารถใส่น้ำผึ้งเพื่อเพิ่มรสหวานและกลิ่นหอมได้

3. น้ำตะไคร้

ตะไคร้ มีวิตามินเอ ช่วยบำรุงสายตา นอกจากนี้ยังมีแคลเซียมและฟอสฟอรัส ช่วยบำรุงกระดูกและฟัน ดื่มแก้ท้องอืดท้องเฟ้อ ขับลม ลดความดันโลหิตสูง ช่วยขับปัสสาวะ ขับเหงื่อได้ดี ลดพิษของสารแปลกปลอมในร่างกาย

วิธีการทำน้ำตะไคร้

1. นำตะไคร้ประมาณ 200 กรัม มาหั่นให้เป็นท่อนๆ

2. ต้มตะไคร้พร้อมกับน้ำ 250 มิลลิลิตร รอน้ำเดือดประมาณ 5-10 นาที แล้วกรองด้วยผ้าขาวบาง เพื่อกันไม่ให้มีเศษตะกอนของใบตะไคร้

3. ใส่น้ำตาลประมาณ 15 กรัม คนให้ละลายเข้า ถ้าชอบรสชาติเปรี้ยวเล็กน้อย ให้เติมกรดมะนาว เพื่อความชุ่มคอและชื่นใจ แล้วกรองอีกครั้ง ตั้งให้เดือด 1-2 นาที หากกรอกลงขวดพลาสติก ต้องลดให้อุณหภูมิ 68 องศาเซลเซียส ปิดฝาให้สนิท แล้วจึงแช่เย็น

สำหรับชีวิตประจำวัน “น้ำเปล่า” ถือเป็นเครื่องดื่มที่ดีที่สุด เพราะไม่มีพลังงาน ปราศจากน้ำตาล และสารปรุงแต่งต่างๆ โดยจะต้องเป็นน้ำที่สะอาด ซึ่งน้ำจะช่วยลดอุณหภูมิของร่างกาย ปรับระดับความดันโลหิต ช่วยลำเลียงอาหาร และออกซิเจนเข้าสู่เซลล์ ช่วยทำให้เซลล์กล้ามเนื้อทำงานได้อย่างสมบูรณ์ 

สุขภาพดีสร้างได้ง่ายๆ ด้วยการใช้ชีวิตให้มีความสมดุล กินหลากหลาย ลดหวาน มัน เค็ม ออกกำลังกายอย่างเพียงพอ เพียงเท่านี้เราก็จะมีสุขภาพที่ดีอย่างยั่งยืน

ผู้อำนวยการ


 

แพทย์หญิงอัมพวัน ศรีครุฑรานันท์
รักษาการในตำแหน่ง
ผู้อำนวยการโรงพยาบาลพาน

 

หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

จำนวนผู้เข้าชม

มี 16 ผู้มาเยือน และ ไม่มีสมาชิกออนไลน์ ออนไลน์

Sahabet Girişlev3ant Dename bonus seks porno sikişi Fantezixxx porno,sikiş,sex,siktir ordanTipobet GirişFilm İzleHD Film İzleFull Film İzlePerabet Girişadaxbet Girişdireksiyon dersi mariobetantalya escort
Copyright © 2024 www.phanhospital.go.th. All Right Reserved.
Powered By Joomla Perfect